บุญของลูกที่กตัญญูรู้คุณพ่อแม่ เลี้ยงดูพ่อแม่จะได้รับ บุญใหญ่ 12 ประการ
Advertisements
Advertisements
หลายๆคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้วและคงจะเคยได้ยินกันมามากตั้งแต่เล็กๆว่า พ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามานั้นคือพระอรหันต์อันยิ่งใหญ่ของบ้าน โดยตามความเชื่อของทุกศาสนาจะมีการสั่งสอนให้เป็นคนดี
ให้เราปฏิบัติต่อคนที่รักเราในครอบครัวเป็นอย่ างดี ส่วนในศาสนาพุทธนั้นการที่เราได้ดูแลพ่อแม่ได้เลี้ยงดูพ่อแม่ นั้นถือเป็นความกตัญญูและเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ เป็นการสร้างสิริมงคลให้กับตัวเราเอง ทำให้ได้อานิสงส์แห่งชีวิตของตนเองมากๆให้มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตยิ่งขึ้นไป
ซึ่งในวันนี้เรามีผลดีที่คนเป็นลูกที่มีความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ เลี้ยงดูพ่อแม่จะได้รับจากการที่เราเลี้ยงดูท่าน บำรุงบิดามารดาเป็นอย่ างดีมาให้ทุกๆท่านได้ทราบและนำไปเป็นแนวทางการปฏิบัติสำหรับการใช้ชีวิตต่อไปในภายภาคหน้า ซึ่งจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ช่วง
1 ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้ตัวเรานั้นดูแลเลี้ยงดูคอยช่วย เหลือกิจการงานของท่าน เลี้ยงดูท่านเมื่อย ามท่านแก่ชรา ดูแลปฏิบัติการกินอยู่เป็นอย่ างดี ให้ความสะดวกสบายเอาใจใส่มีเวลาให้ท่าน สร้างความสุขสร้างรอยยิ้มให้กับท่าน
2 ขณะที่ท่านล่ ว ง ลั บจากไปแล้ว ให้จัดพิธีให้ท่าน หมั่นทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับท่านอย่ างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่ดีที่เรานั้นควรต้องทำ
อานิสงส์ของการดูแลพ่อแม่ และผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเรามา มี 12 ประการ
1 ทำให้มีความอดทน จากการทำสิ่งต่างๆได้ดี
2 ทำให้เป็นคนมีสติรอบคอบในการที่จะคิดทำการสิ่งใด
3 ทำให้เป็นคนมีเหตุผลในทุกๆเรื่อง
4 ทำให้พ้นทุกข์พ้นภัยได้
5 ทำให้ได้ลาภโดยง่าย
6 ทำให้แคล้วคลาดภัยในย ามคับขัน
7 ทำให้เทวดาลงมาพิทักษ์รักษาผู้ที่ทำ
8 ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ
9 ทำให้มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
10 ถ้ามีลูกก็จะได้ลูกที่ดี
11 ทำให้มีความสุขในการใช้ชีวิต
12 ทำให้เป็นตัวอย่ างอันดีแก่อนุชนรุ่นหลัง
“พ่อแม่ เป็นพระอรหันต์ของลูก” ไม่ต้องไปตามพระอรหันต์ที่ไหนหรอก
ที่มา : postsara
Advertisements
Advertisements
บทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับสุขภาพทั้งหมด ทางเว็บไซต์ได้รวบรวมไว้เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อ่านเท่านั้น จึงไม่สามารถนำไปใช้นำไปอ้างอิงหรือใช้แทนการวินิจฉัยของแพทย์ได้ หากมีการนำข้อมูลในเว็บไซต์ไปใช้ ทางเว็บไซต์จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น จากการนําข้อมูลดังกล่าวไปใช้ ในทุกกรณี โดยไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้นควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม และควรต้องทราบว่า ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเป็นข้อมูลทั่วๆ ไป ไม่สามารถนำมาใช้ได้กับคนไข้ทุกๆคน
Advertisements
0 ความคิดเห็น